หัวขวานลดไฟ ไร้ฝุ่น PM2.5
ประเทศไทยประสบปัญหาไฟป่าและมลพิษ PM2.5 ในระดับสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไฟป่ามนุษย์สร้างขึ้นนําไปสู่หมอกควันและมลพิษทางอากาศภายในประเทศ ในช่วงที่เกิดไฟป่าระดับของ PM2.5 ในอากาศจะเพิ่มสูงขึ้นมากจนก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงกับประชาชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว การแก้ไขปัญหาไฟป่าและมลพิษ PM2.5 จากสาเหตุที่แท้จริงอย่างยั่งยืนนั้นควรมีการเสริมสร้างความตระหนักรู้ของประชาชนเกี่ยวกับความสําคัญของการลดมลพิษทางอากาศ หนังสือนิทานภาพชุดหัวขวานลดไฟ ไร้ฝุ่น PM2.5 ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่ ไฟป่าน่ากลัวจัง ไฟนาอย่าก่อนะ และฝุ่นเมืองเรื่องใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับเด็กและเยาวชน รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงปัญหาและนำไปสู่ทางแก้ไข
ระยะเวลาโครงการ 19 เม.ย. 2567 ถึง 28 ก.พ. 2568 พื้นที่ดำเนินโครงการ ทั่วประเทศ
ยอดบริจาคขณะนี้
13,449 บาทเป้าหมาย
831,600 บาทปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา
ประเทศไทยประสบปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นประจำทุกปี โดยมีต้นเหตุที่สำคัญคือการเผาในที่โล่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ไฟป่าและการเผาในภาคเกษตรทั้งจากภายในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับปัญหาฝุ่นในกรุงเทพมหานครนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวจากการจราจรและอุตสาหกรรมเป็นหลักรวมกับการเผาในที่โล่งตามฤดูกาล
การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 นั้นเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะภาคประชาสังคมที่ติดตามวาระแห่งชาติการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองให้ความสนใจและตั้งข้อสังเกตว่าภาครัฐยังมีข้อจำกัดด้านการบริหารจัดการทั้งการเผาในที่โล่งและการควบคุมมลพิษจากการจราจร จากการติดตามการเผาในที่โล่งนั้นโดยวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม FIRECCI51 ของ European Space Agency ประกอบกับข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินของกรมพัฒนาที่ดินปี 2560-2562 ทำให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าในรอบ 10 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2553-2562 มีพื้นที่เผาไหม้ซ้ำซากเฉลี่ยรวม 9.7 ล้านไร่ จำแนกเป็นพื้นที่ป่า ร้อยละ 65 นาข้าวร้อยละ 22 ไร่ข้าวโพดร้อยละ 6 และ เกษตรกรรมอื่นๆ ร้อยละ 3 ส่วนไร่อ้อยนั้นมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 2 ทำให้สรุปได้ว่าไฟป่านั้นเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 อันดับหนึ่ง รองลงมาคือการเผาภาคเกษตรกรรม
ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้น สาเหตุหลักมาจากการจราจร ได้แก่ ไอเสียที่มาจากเครื่องยนต์ที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้กับยานพาหนะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถบรรทุก รถประจำทางและ รถปิคอัพ โดยมีการการใช้เชื้อเพลิงดีเซลร้อยละ 61 ในภาคการขนส่ง รองลงมาได้แก่ยานพาหนะกลุ่มเบนซิน สาเหตุหลักอันดับต่อมาได้แก่มลพิษทางอากาศจากภาคอุตสาหกรรม สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 นั้น การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วง เพราะฝุ่นเกิดจากการขาดความรู้เท่าทัน การละเลยไม่ใส่ใจ แม้กระทั่งการจงใจกระทำผิดกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเองโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การจับกุมยังพบอุปสรรคอีกมากมายซึ่งไม่สามารถทำได้โดยง่าย
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความรู้และความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้เกิดเป็นวัฒนธรรมแก่คนรุ่นใหม่ เพื่อให้มีสำนึกและหลีกเลี่ยง รวมทั้งป้องกันกิจกรรมที่ก่อกำเนิดฝุ่นอันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกฝังตั้งแต่ระดับปฐมวัย เพราะการปลูกฝังนี้จะถูกบันทึกไว้อย่างถาวรในใจ และเมื่อเยาวชนเหล่านี้เติบโตขึ้นก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมในการลดการสร้างฝุ่นและผลกระทบต่อสังคมตลอดไป
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
1.จัดทำต้นฉบับของหนังสือนิทานภาพชุดหัวขวานลดไฟ ไร้ฝุ่น PM2.5 ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่ ไฟป่าน่ากลัวจัง ไฟนาอย่าก่อนะ และฝุ่นเมืองเรื่องใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสำหรับเยาวชน และประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั่วไป ได้ช่วยกันปลูกจิตสำนึกถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สัตว์ป่าในการลดมลภาวะ ได้รับการจัดทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2.ปัจจุบันยังขาดงบประมาณเพื่อการจัดพิมพ์เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเด็กปฐมวัยตามโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน โรงเรียนประถม ห้องสมุดประชาชน และอื่นๆ จึงต้องจัดการระดมทุน
ผู้รับผิดชอบโครงการ
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.วรพร สุขุมาวาสี (หัวหน้าโครงการ)
- ดร.เจน ชาญณรงค์ (ประธานชมรมฯ)
- ดร.กิตติพร พันธุ์วิจิตรศิริ (เลขานุการชมรมฯ)
- คุณเมษนี สถาวรินทุ (ฝ่ายประชาสัมพันธ์)
Facebook: https://www.facebook.com/farfoon.th/
Website: https://farfoon.blogspot.com/
แผนการใช้เงิน
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | จัดพิมพ์นิทานเป็นชุดๆละ 3 เรื่อง (ราคาชุดละ 108 บาท) 1. ไฟป่าน่ากลัวจัง 2. ไฟนาอย่าก่อนะ 3. ฝุ่นเมืองเรื่องใหญ่ | 7000 ชุด | 756,000.00 |